ค่าเงินเยนอ่อน หนักสุดรอบ 24 ปี คนแห่แลกเงินหวังเที่ยวญี่ปุ่น

ค่าเงินเยนอ่อน หนักสุดรอบ 24 ปี คนแห่แลกเงินหวังเที่ยวญี่ปุ่น

ค่าเงินเยนอ่อน ร่วงหนักสุดในรอบ 24 ปี ทำคนแห่จองตั๋ว แลกเงินเยน หวังเที่ยวญี่ปุ่นทะลักแม้ต้องสู้โควิด เพิ่มจำนวนนักเดินทาง วันนี้ปรับเพิ่มจำนวนนักเดินทางขาเข้ารายวันเป็น 50,000 คน ข่าว ค่าเงินเยนของญี่ปุ่น อ่อนค่าหนักสุดในรอบ 24 ปี ล่าสุดอ่อนค่าหลุดจากระดับ 144 ดอลลาร์ ที่ 143.96 ต่อ 1 ดอลลาห์ อัตราแลกเปลี่ยนเมื่อเทียบกับค่าเงินบาทไทย จากการค้นหาข้อมูล อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ เมื่อเวลา 19.50 น. วันที่ 7 กันยายน 2565 อัตราและเงิน 1 เยนต่อหนึ่งบาทไทย อยู่ที่ 0.24 บาท

เป็นผลส่งทำให้ผู้คนหันมาให้ความสนใจ 

หาข้อมูลท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นกันจำนวนมาก ขณะเดียวกันประเทศญี่ปุ่นเองนั้นก็เริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการท่องเที่ยวภายในประเทศ ผู้คนหรือนักท่องเที่ยวซึ่งต้องการไปสัมผัสบรรยากาศเก็บภาพภูเขาไฟฟูจิ หรือ เดินเตร็ดเตร่ย่านชิบูยะ ก็สามารถมีกิจกรรมและกรอบเวลาที่เอื้ออำนวยมากขึ้น

โดยรายงานข่าวจาก สำนักข่าวซินหัว ระบุ ญี่ปุ่น ได้ปรับเพิ่มจำนวนนักเดินทางขาเข้าประเทศรายวันจากเดิมสูงสุด 20,000 คน เป็น 50,000 คนแล้วในวันนี้ 7 ก.ย.65 อีกทั้งยังยกเลิกการตรวจโควิด-19 ก่อนออกเดินทาง 72 ชั่วโมง หากนักท่องเที่ยวฉีดวัคซีนครบ 3 โดส

อย่างไรก็ตาม ถึงญี่ปุ่นจะเน้นกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้านภาพการท่องเที่ยว หลังค่าเงินเยนต่ำสุดเป็นประวัติศาสตร์รอบ 24 ปี ยังคงต่อสู้กับการระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกที่ 7 ซึ่งทำให้ยอดผู้ป่วยใหม่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ต้นตอมาจากการกระจายตัวทั่วประเทศของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ย่อยบีเอ.5 (BA.5) ซึ่งเป็นเชื้อสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอนที่แพร่เชื้อได้ในระดับสูง กรณีนี้ผู้ลงทะเบียนจะต้องกรอกแบบฟอร์มลงทะเบียนให้ครบถ้วน พร้อมทั้งลงลายมือชื่อในเอกสารให้ครบถ้วนทั้งผู้ลงทะเบียนและสมาชิกในครอบครัว เพื่อนำไปยื่น ณ หน่วยงานรับลงทะเบียน ซึ่งจะต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงของผู้ลงทะเบียน

รวมถึงสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของคู่สมรสและบุตรพร้อมลงลายมือชื่อในกรณีที่คู่สมรสและบุตรไม่ได้เดินทางมาแสดงตัวที่หน่วยงานรับลงทะเบียน อย่างไรก็ดี ในกรณีคู่สมรสและบุตรของผู้ลงทะเบียนเดินทางมาแสดงตัว ณ หน่วยงานรับลงทะเบียนพร้อมแสดงบัตรประจำตัวประชาชนก็ไม่จำเป็นต้องใช้สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของคู่สมรสและบุตรของผู้ลงทะเบียน

ผู้ลงทะเบียนที่เป็นผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินทางมาลงทะเบียนได้ด้วยตนเอง

เคสนี้สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นมาลงทะเบียนแทนได้ ทั้งนี้ หนังสือมอบอำนาจสามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ของโครงการฯ หรือติดต่อขอรับได้ที่หน่วยงานรับลงทะเบียนทุกหน่วย

การเปิดรับลงทะเบียนในครั้งนี้จะจัดให้มีผู้ช่วยอำนวยความสะดวกในการรับลงทะเบียนตามจุดรับลงทะเบียน โดยจะเป็นผู้ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ หรือพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อความคุ้นเคยกับผู้ลงทะเบียนและสามารถเดินทางได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ กระทรวงการคลังมีความร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในการขอความอนุเคราะห์ให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกแก่กลุ่มเปราะบางในพื้นที่ ในการลงทะเบียน

ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ วันที่ 2 ยอดพุ่ง 4 ล้านคน

ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 ทั้งจุดลงทะเบียน และเว็บไซต์ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th ยอดทะลุ 4 ล้านคน คนโสดสามารถลงทะเบียนบัตรคนจน 2565 ได้ทางออนไลน์โดยไม่ต้องเดินทางมาหน่วยลงทะเบียน

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า วันที่สองของการเปิดรับลงทะเบียนโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (โครงการฯ) ปี 2565 วันอังคารที่ 6 กันยายน 2565 พบว่า ณ เวลา 15.00 น. มีประชาชนลงทะเบียนแล้วทั้งสิ้น 4,057,960 ราย โดยเป็นการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ 3,372,108 ราย และลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียน 685,852 ราย ทั้งนี้ ประชาชนที่สนใจสามารถลงทะเบียนได้ 2 ช่องทาง คือ

1) ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th ได้ตั้งแต่เวลา 6.00 น. ถึง 23.00 น. ของทุกวัน

2) ลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ได้แก่ สาขาของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทยฯ) สำนักงานคลังจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ สังกัดกรมบัญชีกลาง ที่ว่าการอำเภอทั้ง 878 อำเภอทั่วประเทศ ภายใต้กระทรวงมหาดไทย สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร ทั้ง 50 เขต และศาลาว่าการเมืองพัทยา เมืองพัทยา ตามวันและเวลาทำการของแต่ละหน่วยงาน ได้ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน 2565 จนถึงวันที่ 19 ตุลาคม 2565 เช่นเดียวกัน

โฆษกกระทรวงการคลังได้กล่าวเน้นย้ำว่า “ผู้ลงทะเบียนที่มีสถานะโสดหรือไม่มีครอบครัวสามารถดำเนินการลงทะเบียนแล้วให้เสร็จได้ที่เว็บไซต์ โดยไม่ต้องเดินทางมาที่หน่วยงานรับลงทะเบียน สำหรับผู้ลงทะเบียนที่มีครอบครัวจะต้องไปยื่นแบบฟอร์มการลงทะเบียนที่หน่วยงานรับลงทะเบียนตามที่ผู้ลงทะเบียนได้เลือกไว้” โดย “ครอบครัว” หมายถึง คู่สมรสที่จดทะเบียนตามกฎหมาย และบุตรชอบด้วยกฎหมายที่อายุต่ำกว่า 18 ปี (ไม่รวมบุตรบุญธรรม) โดยที่คู่สมรสและบุตรยังมีชีวิตอยู่ ทั้งนี้ ผู้ที่ลงทะเบียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว สามารถ “ตรวจสอบสถานะการลงทะเบียน” ด้วยตนเองผ่านทางเว็บไซต์ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th.mof.go.th/ หรือ https://welfare.mof.go.th หรือตรวจสอบผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทุกหน่วยงานได้ทุกวันศุกร์ของสัปดาห์ถัดไป เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2565 เป็นต้นไป

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า