กงสุลใหญ่อังกฤษ กลายเป็นฮีโร่ เมื่อเขากระโดดลงไปในน้ำเพื่อช่วย หญิงจีน หลังจากที่เธอลื่นและพลัดตกลงไปน้ำ สำนักข่าว ชาแนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า นาย สตีเฟน เอลิสัน กงสุลใหญ่สหราชอาณาจักร ประจำวันประเทศจีน วัย 61 ได้กระโดดลงไปในน้ำ เพื่อลงไป ช่วยหญิงจีน ที่พลัดตกลงน้ำ ในเมือง จงซาน เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมในมณฑลกวางตุ้ง
โดยนาย เอลิสัน ให้สัมภาษณ์ว่า เขาได้ยินเสียง ร้องของผู้คน
ขณะที่ หญิงคนดังกล่าวลื่นตกน้ำ ซึ่งผู้เคราะห์ร้ายไม่สามารถพยายามลอยตัวเหนือน้ำได้ นายเอลิสัน จึงถอดรองเท้าและโดดลงไป ก่อนจะช่วยเหลือ หญิงไม่ทราบชื่อรายนี้กลับขึ้นฝั่งได้อย่างปลอดภัย ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดมีประชาชนในที่เกิดเหตุบันทึกไว้ได้
ตลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่เว็ปไซต์ เหวยป๋อ และมีการชมคลิปมากถึง 40 ล้านครั้ง โดยสถานกงสุลสหราชอาณาจักรในประเทศ จีน ได้กล่าวแสดงความภาคภูมิใจต่อความกล้าหาญของนาย เอลิสัน พร้อมอีกกล่าวว่า เพราะการช่วยเหลือที่ทันเวลา ทำให้หญิงคนนี้กลับมาหายใจได้และฟื้นคืนสติอย่างรวดเร็ว
นาย สตีเฟน เอลิสัน ปฏิบัติหน้าที่ในสถานกงสุลสหราชอาณาจักร ประจำประเทศจีน ตั้งแต่ปี 2557 และ นาย เอลิสัน ยังเป็นนักกีฬาไตรกีฬาอีกด้วย
ข่าวดีอย่างต่อเนื่อง เมื่อบริษัท โมเดอร์นา ได้ออกมาประกาศว่าพวกเขาสามารถผลิต วัคซีน โควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพป้องกันการติดเชื้อได้มากเกือบร้อยละ 95 เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน สำนักข่าว BBC รายงานว่า วัคซีนโควิด-19 ของบริษัท โมเดอร์นา (Moderna) บริษัทสัญชาติสหรัฐฯ มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดโรค โควิด-19 ได้มากถึงเกือบร้อยละ 95
โดยทางบริษัทได้ทำการทดลองฉีดวัคซีนกับประชาชนชาวอเมริกันมากกว่า 30,000 คน โดยครึ่งนึงจะได้รับการฉีดวัคซีน โมเดอร์นา จำนวน 2 โดส เป็นระยะเวลาห่างกัน 4 สัปดาห์ ส่วนที่เหลือรับยาปลอม ซึ่งจากการทดลองครั้งนี้ เจอพบแสดงอาการป่วยโควิด 95 ราย
ในจำนวนดังกล่าวเป็นผู้ป่วยที่ได้รับยาปลอม 90 ราย ส่วนอีก 5 รายเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีน โมเดอร์นา
ซึ่งจากการทดสอบยังไม่พบผลข้างเคียงร้ายแรง อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าอาสาสมัคร รู้สึกเหนื่อยล้าในระยะสั้นๆ ปวดหัว และอาการปวด อย่างไรก็ตามทางบริษัทระบุว่าการแสดงอาการดังกล่าว เป็นเรื่องดี เพราะเป็นการพิสูจน์ว่า วัคซีนทำงาน
นายแพทย์ สตีเฟน โฮจ ประธานบริษัทโมเดอร์นา ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้เป็นวันที่ดี และเขายิ้มไม่หุบ เมื่อเห็นผลการทดลอง ซึ่งเขายังได้ให้สัมภาษณ์อีกว่า ไม่ใครเคยคาดคิดว่าวัคซีนต้าน โควิด-19 จะมีประสิทธิภาพสูงถึงร้อยละ 94
ขณะทางนี้บริษัทได้ทำการยื่นเรื่องกับทางการสหรัฐฯ เพื่อขอให้ใช้วัคซีนชนิดนี้ต่อไป คาดว่าจะมีวัคซีน โมเดอร์นา ในสหรัฐฯ กว่า 20 ล้านโดส
โดยนี่เป็นครั้งที่สองในรอบเดือนที่มีข่าวการผลิตวัคซีนเกิดขึ้น เพราะหากย้อนกลับไปในสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัท ไฟเซอร์ ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า วัคซีน โควิด-19 ของพวกเขาก็มีประสิทธิภาพสูงถึงร้อยละ 90
ผู้ผลิตวัคซีนโควิด คาด กลับมา ใช้ชีวิตตามปกติ ได้สิ้นปีหน้า
ผู้ผลิตวัคซีนออกมาคาดการณ์ว่า ทั่วโลก น่าจะกลับไป ใช้ชีวิตตามปกติ ได้ในช่วงเดือนฤดูหนาวปีหน้า หากพวกเขาสามารถแจกจ่ายวัคซีนต้าน โควิด-19 ได้ถึง 300 ล้านโดสทั่วโลก
โควิด -19 : เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน สำนักข่าว BBC รายงานว่า นาย อุกูร์ ซาฮิน ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ไบโอเอ็นเท็ค บริษัทสัญชาติเยอรมนี ที่มีส่วนร่วมในการผลิตวัคซีนต้าน โควิด-19 ไฟเซอร์ ได้ออกมาคาดการณ์ว่า ทั่วโลกน่าจะกลับไป ใช้ชีวิตตามปกติ ได้ในช่วง ฤดูหนาว หรือ ช่วงสิ้นปีหน้า
โดยนายซาฮินกล่าวว่า วัคซีน ไฟเซอร์ น่าจะพร้อมแจกจ่ายในช่วงสิ้นปีนี้ ถึง ช่วงต้นปี หน้า พร้อมตั้งเป้าแจกจ่ายวัคซีนให้กับทั่วโลกได้มากกว่า 300 ล้านโดส ซึ่งหากพวกเขาทำเสร็จ พวกเขาจะสามารถสร้าง ‘ผลกระทบให้กับทั่วโลกได้’
ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทผลิตวัคซีนได้อธิบายว่า ฤดูร้อนจะมีส่วนสำคัญในการต่อสู้กับโรคระบาดครั้งนี้ เนื่องจากในช่วงฤดูร้อน จะทำให้ยอดผู้ป่วยลดลง โดยสิ่งที่สำคัญคือมีประชาชนรับวัคซีนเป็นจำนวนมาก ก่อนฤดูใบไม้ร่วง และ ฤดูหนาว
นายซาฮินได้แสดงความมั่นใจว่า วัคซีนของพวกเขาจะประสบความสำเร็จ ในการลดจำนวนผู้ติดเชื้อ และต่อให้วัคซีนลดจำนวนผู้ติดเชื้อสำเร็จได้เพียงร้อยละ 50 นายซาอินก็เชื่อว่าจำนวนผู้ป่วยจะลงลงเป็นจำนวนมากอยู่ดี
วัคซีน ไฟเซอร์ ได้ทดลองกับอาสาสมัคร 43,500 คน จาก 6 ประเทศ และจากการทดลองพบว่า วัคซีน ประสิทธิภาพมากถึงร้อยละ 90 ในการต้านโรค โควิด-19 และ ไม่มีพบถึงปัญหาด้านความปลอดภัยจากอาสาสมัครทั้งหมด
NASA และ SpaceX ได้เริ่มทำการเดินทางสู่ อวกาศ อีกครั้งในวันที่ 16 พ.ย. 2563 หรือวันนี้ โดยถือเป็นครั้งที่ 2 ที่เป็นการดำเนินการโดยองค์กรเอกชน โดยทาง NASA และทาง SpaceX ได้เริ่มทำการเดินทางและขนส่งไปยัง อวกาศ ในวันนี้ โดยนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 ที่การดำเนินการดังกล่าวจะทำโดยองค์กรเอกชน ไม่ใช่โดยรัฐเป็นหลักอีกต่อไป ซึ่งในครั้งนี้จะมีนักบินอวกาศเดินทางไปด้วย 4 คน จากสหรัฐอเมริกา 3 คน และญี่ปุ่น 1 คน
Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่าง